gallerybottom

Green Children of Woolpit


 Green Children of Woolpit




 บ่ายวันหนึ่งแห่งเดือนสิงหาคม ค.ศ.1887 เด็กสองคนจูงมือกัน เดินออกมาจากถ้ำแห่งหนึ่งที่เชิงผาใกล้หมู่บ้านบานโฮเซ ในประเทศสเปน เข้าไปในนาซึ่งคนงานกำลังเก็บเกี่ยวกันอยู่ เด็กสองคนนั้นเดินออกมาจากปากถ้ำอย่างปราศจากอาการหวาดกลัว ทั้งสองคนพูดภาษาที่แปลก และกระท่อนกระแท่น ไม่ใช้ภาษาสเปน และภาษาใดในโลก กับทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็ประกอบด้วยวัสดุที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและที่ประหลาดที่สุดก็คือผิวกายของเด็กทั้งคู่ไม่เหมือนคนธรรมดา ทั่วไป กล่าวคือเป็นสีเขียวขจี เมื่อพิจารณาดูลักษณะของตาเหมือนคนเอเชียมาก นัยน์ตากลมเหมือนผลมะนาว และลึก

พวกชาวนาพากันวิ่งกรูเข้าไปหาเด็กสองคนนั้น ฝ่ายเด็กก็ตื่นตกใจและออกวิ่ง ผู้คนเลยแตกตื่นวิ่งไล่ตาม ในที่สุดก็ตามทันและจับตัวไว้ได้นำไปที่หมู่บ้านทั้งสองคนถูกนำตัวไปที่บ้านของริคาร์โด ดา คาลโน ผู้ซึ่งเป็นทั้งนคราภิบาล และเจ้าของที่ดินคนสำคัญของหมู่บ้าน

ดา คาลโนพยายามพูดจากับเด็กคู่นั้น ส่วนคนอื่นๆ โผล่หน้าต่างดู เขาจับมือขวาของเด็กผู้หญิงยกขึ้นดู ปรากฏว่าสีเขียวติดแน่น จึงต้องเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อของผิวกายอย่างไม่ต้องสงสัย เด็กคนนั้นดึงมือกลับ แล้วร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว เจ้าของบ้านจัดอาหารมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเด็กทั้งสอง แต่เด็กก็ไม่รับประทาน หยิบขนมปังขึ้นมาถือไว้แล้วหยิบผลไม้ แต่ก็เพียงมองดูด้วยความแปลกใจ ไม่ยอมเอามันเข้าไปใกล้ปาก เด็กทั้งสองพักอยู่ในบ้านนั้น 5 วัน ไม่กินอะไรเลยจนสังเกตเห็นได้ว่าอ่อนเพลีย จนในที่สุดเด็กชายก็เสียชีวิตจากไปเพราะร่างกายอ่อนแอ หลังจากมาที่ปรากฏตัวได้ที่นั่นหนึ่งเดือน ศพของเขาก็ได้ถูกฝังไว้ในสุสานของหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตามส่วนเด็กหญิงกลับแข็งแรงดี และทำหน้าที่เป็นคนรับใช้อยู่ในบ้านของ ดา คาลโน ผิวกายที่เป็นสีเขียวค่อยๆ จางลง หลังจากนั้น 2-3 เดือนเธอก็พูดภาษาสเปนได้บ้าง จึงสามารถให้ถ้อยคำชี้แจงแก่ดา คาลโนได้ถึงเรื่องราวในการมาของเธอ แต่แม้กระนั้นก็ยังทำให้ความลึกลับที่มีอยู่แล้วกลับมีมากยิ่งขึ้น

เธอบอกว่าเธอมาจากดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีพระอาทิตย์ขึ้น และมีแสงสนธยาอยู่เสมอเป็นนิจ "มีดินแดนที่มีแสงสว่างแลเห็นอยู่ห่างไกลจากเรา แต่ถูกสกัดกั้นโดยธารน้ำที่กว้างมาก" ต่อคำถามที่ว่าทั้งสองคนมาสู่พิภพของเราได้อย่างไร เธอตอบได้แต่เพียงว่า "มีเสียงหนึ่งดังมากขึ้น และเสียงนั้นเองที่ตรึงจิตใจของเรา เราจึงมาตามเสียงนั้นและได้พบตัวเองมาอยู่ในทุ่งนาที่กำลังมีการเก็บเกี่ยว"

นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดที่เธอเล่าให้ฟัง เด็กผู้หญิงมีชีวิตอยู่อีกห้าปี แล้วเธอเองก็ตายตามไปอีกคนนึ่ง ศพของเธอถูกฝังไว้เคียงข้างกับศพพี่(หรือน้อง) ชายของเธอ

นี้ เป็นเรื่องจริงปรัมปราที่เล่ากันมาในอดีต หรือเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงกันแน่??


0 ความคิดเห็น:

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

ความเห็นล่าสุด

Your left Slidebar content. -->