บนโลกนี้มีเรื่องให้พิสูจน์อีกมาก อย่างที่เรากำลังจะพาไปเยี่ยมเยือนสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบล็อกเนสในสก็อต แลนด์ เรื่องเล่าที่โด่งดังเกี่ยวกับ
สัตว์รูปร่างประหลาด เนสซี่ ตัวใหญ่ประมาณ 15 - 40 ฟุต มักโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งคราว หลายคนสนใจติดตามจับภาพสัตว์ประหลาดตัวนี้
แล้วบางอย่างก็เป็นจริง
มีภาพของวัตถุลึกลับเคลื่อนไหวอยู่ในทะเลสาบชื่อก้องนี้แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ถึงอย่างไรคนหลายคน
ต่างเชื่อว่า เนสซี่ สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ คอยาว มีครีบ นั้นมีอยู่จริง แต่เราจะได้เห็นหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเนสซี่เอง
เนสซี่ สัตว์ประหลาดแห่ง ล็อคเนส
นับจาก ค.ศ.565 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกเรื่องเกี่ยวกับ “สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์” ในทะเลสาบล็อคเนส สกอตแลนด์ เป็นครั้งแรก
จนถึงวันนี้ก็ปาเข้าไป 1,443 ปีแล้ว ที่เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาไม่มีใครรู้แน่ว่า เจ้าสัตว์ที่ถูกขนานนามว่า “เนสซี” นี้มีตัวตนจริง หรือไม่
แม้จะมีรายงานว่า มี คนพบเห็นมากกว่า 4,000 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป
การไล่ล่าหาเนสซีมีมาอย่างต่อเนื่อง โดย เฉพาะอย่างยิ่ง ในปีที่แล้ว ซึ่งเกิดการตามล่าสัตว์ ที่ว่ากันว่า น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์หลงยุคนี้กันยกใหญ่
เมื่อบริษัท วิลเลียม ฮิลล์ ผู้ประกอบการ รับพนันที่ถูกกฎหมายของอังกฤษได้ออกมาประกาศ ว่า
หากใครสามารถ พิสูจน์ถึงการมีอยู่ของเนสซีตัวเป็นๆ แล้วล่ะก็ เอาไปเลย 1 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็น เงินไทยก็ 70 ล้านบาทเหนาะๆ
งานนี้ วิลเลียม ฮิลล์ตั้งความหวังว่าเงินรางวัลล่อใจนี้จะช่วยคลาย “ปมปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัย” แต่เอาเข้าจริงๆ แม้จะมีการตามล่ากันแบบโกลาหล
ก็ยังไม่มีใครเข้า ใกล้รางวัลใหญ่ที่ว่ายกเว้นหนุ่มหน้ามลคนอังกฤษนามกอร์ดอน โฮล์มส์ พนักงานห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จากยอร์กเชียร์
ที่สามารถถ่ายวีดิโอภาพที่ว่ากันว่า เป็นภาพเนสซีที่ชัดที่สุดในประวัติศาสตร์ สร้างความฮือฮา อย่างน่าตื่นเต้น
กระทาชายนายโฮล์มส์ที่ไม่ได้เป็นญาติอะไรกับนักสืบนามกระเดื่องในนิยายชุด เชอร์ล็อค โฮล์มส์ ให้การว่า ตอนที่กำลังนั่งเอ้เต้ชมวิวทิวทัศน์อยู่เหนือทะเลสาบล็อคเนส
ในวันที่ 28 พฤษภาคมปีที่แล้ว จู่ๆ ก็เห็น “อะไรบางอย่าง” กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนผิวน้ำ
เห็นอย่างนั้นพี่แกก็ไวทายาด รีบกระโจนไปคว้า กล้องวีดิโอมาถ่ายภาพได้นาน 2 นาทีครึ่ง
เป็น 2 นาทีครึ่ง ที่ทำเอาวงการสัตว์ประหลาดของโลกต้องหวั่นไหว เพราะเป็นภาพที่เห็น ได้ชัดเจนถึงการเคลื่อนที่ของสัตว์ชนิดหนึ่ง สีดำขนาดใหญ่ คาดว่ายาวราวๆ 15 เมตร
แหวกน้ำด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนผืนน้ำล็อคเนสอย่างชัดเจน และบางส่วนของภาพมองเห็นครีบด้วย
เอเดรียน ไชน์ นักชีววิทยาสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลุ่มหลงที่ติดตามเรื่องราวของเนสซีบอกว่า ภาพวีดิโอฝีมือของโฮล์มส์นั้น เป็นภาพที่ยากจะทำปลอมขึ้น
เพราะไม่ได้ถ่ายเฉพาะ ตัวสัตว์ ประหลาดเท่านั้น แต่ยังถ่ายเลยไปถึงฉากหลังที่เป็นภูเขารอบทะเลสาบด้วย ทำให้สามารถ เปรียบเทียบขนาดและความเร็วของสิ่งที่เห็นได้ถนัดชัดเจน
ส่วนตัวนายโฮล์มส์เองที่ยังตื่นเต้นไม่หายก็บอกว่า ทีแรกก็นึกอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นคลื่น หรือเปล่า แต่เมื่อมองแล้วก็เห็นการเคลื่อนไหว ที่ไปคนละทิศกับระลอกคลื่น
แถมยังเห็นหลัง สีดำชัดเจน และตอนที่เห็นก็นึกว่าสัตว์ประหลาดนี้น่าจะยาวสัก 4-6 ฟุต แต่พอมามองอีกทีก็ น่าจะใหญ่กว่านั้นมาก
งานนี้สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษนำภาพเคลื่อนไหวของโฮล์มส์ไปออกอากาศ และได้รับเสียง ครางฮือจากผู้ชมว่าชัดเจนแจ่มแจ๋ว แต่ถึงกระนั้น นักวิชาการบางคนก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อ อะไรง่ายๆ
เพราะฉะนั้นภาพที่ถ่ายได้ก็จะถูกนำไปวิเคราะห์อีกหลายยก เพื่อให้แน่ใจ ว่าไม่ใช่นาก หรือแมวน้ำมาล้อเล่นกับกล้อง
อย่างไรก็ตาม หากจะถามว่าเนสซีมีตัวตนจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครตอบได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง และในทางกลับกัน ถ้าจะบอกว่าไม่มีจริง ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะมีคนเห็นเยอะเหลือเกิน
แต่ถ้าจะกล่าวถึงความชัดเจนที่สุดจากทางการ ต้องฟันธงลงไปว่า เนสซีมีตัวจริงแหงๆ
รัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรเพิ่งจะเปิดเผยเอกสารที่เคยเป็นเอกสารลับเกี่ยวกับเนสซีไป เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2549 หรือเมื่อ 2 ปีก่อนนี้เองว่า รัฐบาลยอมรับในการมีอยู่ของเนสซี!!
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งข้อความในเอกสารที่ (เคย) ลับมากนี้ระบุว่า
รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ เชื่อเรื่องการมีอยู่ของสัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนส และเชื่อไม่เชื่อเปล่า ยังพยายาม หาทางปกป้องมันอีกต่างหาก
เพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกิดกังวลว่า การที่มี ผู้พยายาม ค้นหา ตามล่าแทบทุกตารางนิ้วของทะเลสาบ อาจจะทำให้เจ้าสัตว์ หลงยุคนี้ได้รับอันตราย รัฐบาลจึงได้ทุ่มเททั้งเงิน
และเวลาในการวิจัยเพื่อหาทางปกป้องเนสซี สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่า ไม่ต้องไปทำอะไรมันหรอก เพราะสัตว์ประหลาดนี้ถูกคุ้มครองอยู่แล้ว ตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและชนบท ค.ศ.1981
ซึ่งคุ้มครองทั้งสัตว์ที่รู้จักและไม่รู้จัก อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปออกกฎหมายใหม่ให้เมื่อย
ข้อมูลจาก http://www.cmxseed.com
แม้จะมีรายงานว่า มี คนพบเห็นมากกว่า 4,000 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป
การไล่ล่าหาเนสซีมีมาอย่างต่อเนื่อง โดย เฉพาะอย่างยิ่ง ในปีที่แล้ว ซึ่งเกิดการตามล่าสัตว์ ที่ว่ากันว่า น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์หลงยุคนี้กันยกใหญ่
เมื่อบริษัท วิลเลียม ฮิลล์ ผู้ประกอบการ รับพนันที่ถูกกฎหมายของอังกฤษได้ออกมาประกาศ ว่า
หากใครสามารถ พิสูจน์ถึงการมีอยู่ของเนสซีตัวเป็นๆ แล้วล่ะก็ เอาไปเลย 1 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็น เงินไทยก็ 70 ล้านบาทเหนาะๆ
งานนี้ วิลเลียม ฮิลล์ตั้งความหวังว่าเงินรางวัลล่อใจนี้จะช่วยคลาย “ปมปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัย” แต่เอาเข้าจริงๆ แม้จะมีการตามล่ากันแบบโกลาหล
ก็ยังไม่มีใครเข้า ใกล้รางวัลใหญ่ที่ว่ายกเว้นหนุ่มหน้ามลคนอังกฤษนามกอร์ดอน โฮล์มส์ พนักงานห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จากยอร์กเชียร์
ที่สามารถถ่ายวีดิโอภาพที่ว่ากันว่า เป็นภาพเนสซีที่ชัดที่สุดในประวัติศาสตร์ สร้างความฮือฮา อย่างน่าตื่นเต้น
กระทาชายนายโฮล์มส์ที่ไม่ได้เป็นญาติอะไรกับนักสืบนามกระเดื่องในนิยายชุด เชอร์ล็อค โฮล์มส์ ให้การว่า ตอนที่กำลังนั่งเอ้เต้ชมวิวทิวทัศน์อยู่เหนือทะเลสาบล็อคเนส
ในวันที่ 28 พฤษภาคมปีที่แล้ว จู่ๆ ก็เห็น “อะไรบางอย่าง” กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนผิวน้ำ
เห็นอย่างนั้นพี่แกก็ไวทายาด รีบกระโจนไปคว้า กล้องวีดิโอมาถ่ายภาพได้นาน 2 นาทีครึ่ง
เป็น 2 นาทีครึ่ง ที่ทำเอาวงการสัตว์ประหลาดของโลกต้องหวั่นไหว เพราะเป็นภาพที่เห็น ได้ชัดเจนถึงการเคลื่อนที่ของสัตว์ชนิดหนึ่ง สีดำขนาดใหญ่ คาดว่ายาวราวๆ 15 เมตร
แหวกน้ำด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนผืนน้ำล็อคเนสอย่างชัดเจน และบางส่วนของภาพมองเห็นครีบด้วย
เอเดรียน ไชน์ นักชีววิทยาสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลุ่มหลงที่ติดตามเรื่องราวของเนสซีบอกว่า ภาพวีดิโอฝีมือของโฮล์มส์นั้น เป็นภาพที่ยากจะทำปลอมขึ้น
เพราะไม่ได้ถ่ายเฉพาะ ตัวสัตว์ ประหลาดเท่านั้น แต่ยังถ่ายเลยไปถึงฉากหลังที่เป็นภูเขารอบทะเลสาบด้วย ทำให้สามารถ เปรียบเทียบขนาดและความเร็วของสิ่งที่เห็นได้ถนัดชัดเจน
ส่วนตัวนายโฮล์มส์เองที่ยังตื่นเต้นไม่หายก็บอกว่า ทีแรกก็นึกอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นคลื่น หรือเปล่า แต่เมื่อมองแล้วก็เห็นการเคลื่อนไหว ที่ไปคนละทิศกับระลอกคลื่น
แถมยังเห็นหลัง สีดำชัดเจน และตอนที่เห็นก็นึกว่าสัตว์ประหลาดนี้น่าจะยาวสัก 4-6 ฟุต แต่พอมามองอีกทีก็ น่าจะใหญ่กว่านั้นมาก
งานนี้สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษนำภาพเคลื่อนไหวของโฮล์มส์ไปออกอากาศ และได้รับเสียง ครางฮือจากผู้ชมว่าชัดเจนแจ่มแจ๋ว แต่ถึงกระนั้น นักวิชาการบางคนก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อ อะไรง่ายๆ
เพราะฉะนั้นภาพที่ถ่ายได้ก็จะถูกนำไปวิเคราะห์อีกหลายยก เพื่อให้แน่ใจ ว่าไม่ใช่นาก หรือแมวน้ำมาล้อเล่นกับกล้อง
อย่างไรก็ตาม หากจะถามว่าเนสซีมีตัวตนจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครตอบได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง และในทางกลับกัน ถ้าจะบอกว่าไม่มีจริง ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะมีคนเห็นเยอะเหลือเกิน
แต่ถ้าจะกล่าวถึงความชัดเจนที่สุดจากทางการ ต้องฟันธงลงไปว่า เนสซีมีตัวจริงแหงๆ
รัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรเพิ่งจะเปิดเผยเอกสารที่เคยเป็นเอกสารลับเกี่ยวกับเนสซีไป เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2549 หรือเมื่อ 2 ปีก่อนนี้เองว่า รัฐบาลยอมรับในการมีอยู่ของเนสซี!!
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งข้อความในเอกสารที่ (เคย) ลับมากนี้ระบุว่า
รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ เชื่อเรื่องการมีอยู่ของสัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนส และเชื่อไม่เชื่อเปล่า ยังพยายาม หาทางปกป้องมันอีกต่างหาก
เพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกิดกังวลว่า การที่มี ผู้พยายาม ค้นหา ตามล่าแทบทุกตารางนิ้วของทะเลสาบ อาจจะทำให้เจ้าสัตว์ หลงยุคนี้ได้รับอันตราย รัฐบาลจึงได้ทุ่มเททั้งเงิน
และเวลาในการวิจัยเพื่อหาทางปกป้องเนสซี สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่า ไม่ต้องไปทำอะไรมันหรอก เพราะสัตว์ประหลาดนี้ถูกคุ้มครองอยู่แล้ว ตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและชนบท ค.ศ.1981
ซึ่งคุ้มครองทั้งสัตว์ที่รู้จักและไม่รู้จัก อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปออกกฎหมายใหม่ให้เมื่อย
ข้อมูลจาก http://www.cmxseed.com
0 ความคิดเห็น:
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น